วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เหรียญหยดน้ำ หลวงปู่สาม อกิญจโน


เหรียญนี้ได้มาโดยไม่ทราบที่มา ...ผมเองก็ไม่เคยไปเช่าบูชาที่ใหน ..ไปเปิดเจอท่านอยู่ในลิ้นชักใส่พระในรถยนต์ ..รับทราบมาว่าหลวงปู่สาม ท่านเป็นพระอริยะเจ้า องค์หนึ่ง..กราบหลวงปู่สามครับ
----------------------------------
ประวัติเท่าที่ค้นหาข้อมูลมาได้

เป็นเหรียญหยดน้ำเนื้อทองแดง หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์ รุ่นสร้างศาลาเมตตาอกิญจโน พ.ศ.2534 


วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หลวงปู่แดง วัดพระเจดีย์แหลมสอ อ.เกาะสมุย


เหรียญที่ระลึก ร่วมสร้างอุโบสถ์วัดพระเจดีย์แหลมสอ

--------------------------------------------------------

รำลึกถึงหลวงปู่แดง ติสโส วัดพระเจดีย์แหลมสอ

    สมัย 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมแค่เด็กป.6 เกาะสมุยยังไม่มีคนรู้จัก ปลาในทะเลชุกชุมมาก เห็นผู้ใหญ่เขาระเบิดปลากันได้ปลาเยอะมากก็เลยอยากลองมั่งตามประสาเด็ก ระเบิดปลาใช้ TNT ครับ เพราะระเบิดหาง่ายเนื่องจากมีสัมปทานเหมืองแร่ วันหนึ่งชวนเพื่อนๆไประเบิดปลากัน แต่แก็ปจุดระเบิดหมด มีแต่แก็ปไฟฟ้า จึงคิดตัดหัวแก็ปที่ติดสายไฟฟ้าออก เอาเฉพาะท่อนล่าง เพื่อเสียบสายชวนระเบิด เลยเอาแก็ปไฟฟ้า ตั้งบนขอนไม้แล้วใช้อีโต้สับกะว่าขาดแน่เร็วดี ปรากฎว่าสับปั๊ปมันก็ระเบิดตูมเลย ผมคนสับแก็ป ไม่เป็นอะไรเลย แต่เพื่อนๆที่ยืนข้างๆ โดนกันทุกคนๆละรูสองรู วิ่งกลับบ้านกันจ้าละหวั่นเลย ในคอที่พ่อให้แขวนคือ เหรียญหลวงปู่แดง ติสโส เหรียญเดียว ลักษณะคล้ายเหรียญในภาพข้างบนมาก (ตอนนนี้หายหมดไม่เหลือเหรียญเดิมซักเหรียญ)


วันนี้ได้มีโอกาสไปทอดผ้าป่าเพื่อสร้างโบสถ์ที่วัดพระเจดีย์แหลมสออีกครั้ง เห็นมีเหรียญใหม่คล้ายเหรียญยุคก่อนมาก เลยรีบบูชามาทันทีครับ เหรียญชุดนี้ได้รับความเมตตาจาก องค์สมเด็จพระพุฒาจาร์ยเกี่ยว อุปเสโน เป็นองค์ต้นทำพิธีอธิษฐานจิตให้ที่วัดศระเกศมหาวิหาร.. ยิ่งเติมเต็มความศักดิ์สิทธฺิ์เป็นที่สุด (หลวงพ่อฤาษีบอกว่า..สมเด็จเกี่ยว ท่านเป็นพระทองคำครับ)


พระเจดีย์แหลมสอ ตั้งอยู่ริมชายหาดเป็นที่สักการะบูชาของคนสมุยมาช้านาน

เล่ากันว่ามีชาวบ้านที่เป็นนักดำน้ำหาของโบราณแต่ก่อนบอกว่า.. มีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ในทะเลหน้าวัดพระเจดีย์แหลมสอ..หลวงปู่แดงท่านจึงได้จำลองสร้างพระเจดีย์ขึ้นไว้ที่ริมทะเลดังกล่าว

ภาพบรรยากาศวันร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี 27-7-2554


ผ้าป่าพุ่มนี้ผมเองครับ..ส่วนเจ้าหนุ่มทางขวานั่นเคยโดนยิงสามนัดไม่ออกเลยซักนัดครับ รอดมาได้เพราะ แขวนเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง


ทอดผ้าป่าร่วมใจกันสร้างอุโบสถวัดพระเจดีย์แหลมสอ


ภาพพระเครื่องหลวงปู่แดง ติสโส ที่ออกให้บูชาในวันงาน


ทำบุญสร้างโบสถ์ 999 บาททางวัดมอบให้ หนึ่งเหรียญครับ มีสามแบบ แบบละ 1000 องค์เท่านั้น


หลังจาก องค์สมเด็จพระพุฒาจาร์ยเกี่ยว วัดสะเกศ ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้แล้ว ทางวัดยังได้นำมาทำพิธีที่วัดหลวงปู่แดงอีกครั้งโดยนิมนต์พระคณาจารย์มาร่วมพิธีพุทธาพิเษกอีกมากมายด้วย


ยังมีพระเครื่อง..หลวงปู่แดง ติสโส.. เหลืออยู่ไม่มาก..ที่วัดพระเจดีย์แหลมสอ รอท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างอุโบสถครับ..รีบๆทำก่อนจะหมดต้องเช่าหากันในหลักหมื่นต่อไป

เหรียญพัดยศ (ฉลองสมณศักดิ์)


เนื้อโลหะรมดำ


เหรียญสร้างน้อยหายาก มีลูกศิษย์ขอพรใช้ในการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ประสบความสำเร็จกันมาหลายคนแล้ว
 ---------------------------------------
ลักษณะ เป็นเหรียญรูปทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ คล้ายพัดสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญ
ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อ มีโค๊ดตอกอยู่ที่สังฆาฏิ
ด้านหลัง เป็นยันต์ท่านท้าวมหาชมพู มีอักขระคาถาล้อมรอบและมีคำว่า " ที่รฤกในงานฉลองสมณศักดิ์" ดังรูปข้างบน

ขนาด ความกว้าง 2 ซ.ม.
ขนาด ความสูง 3.5 ซ.ม.
จำนวนการสร้าง
    เนื้อเงิน 30 เหรียญ
    เนื้อโลหะรมดำ ประมาณ 6000 เหรียญ


วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แหนบหลวงพ่อ


 ในบรรดาวัตถุมงคลทั้งหมด ที่หลวงพ่อแจกเป็นสาธารณะมากที่สุดคือแหนบ ท่านแจกต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายสิบปี 


แจกให้ทุกคนที่มากราบ มาทำบุญกับท่าน จะมากจะน้อยท่านไม่คำนึงถึง เพราะคนที่มาส่วนใหญ่ต้องเดินทางไกล มีความตั้งใจสูงท่านแจกให้เป็นที่ระลึกเพื่อความปลอดภัย

แหนบรุ่นที่๕ เนื้อชุบทองลงยา


รุ่นที่ ๕ นี้ มีสองเนื้อคือ ชุบทอง และชุบทองลงยา

ขนาด
ความกว้าง 2.4 เซ็นติเมตร
ความสูง 3.9 เซ็นติเมตร

พระคำข้าว ชุดเดือน มิถุนายน ๒๕๕๔

องค์ที่๑ (54-06-01)


องค์ที่๒ (54-06-02)


องค์ที่๓ (54-06-03)


องค์ที่๔ (54-06-04)


องค์ที่๕ (54-06-05)


องค์ที่๖ (54-06-06)


องค์ที่๗ (54-06-07)


องค์ที่๘ (54-06-08)


องค์ที่๙ (54-06-09)


องค์ที่๑๐ (54-06-10)


วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พระเครื่องหลวงพ่อมนัส วัดทุ่งจันดำ

   ไปเยี่ยมญาติที่ จ.ตราดมา..เลยแวะทำบุญที่วัดโคกเกวียนลอย (ทุ่งจันดำ) อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี ได้พระเครื่องมาบูชาอย่างละองค์.. หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต..ท่านสงเคราะห์รักษาคนเป็นมะเร็งไม่คิดเงิน...ทั้งที่ค่าตัวยานั้นแพงมากๆ

ได้พระเครื่องของ หลวงพ่อมนัส มาบูชา ๕ องค์


องค์แรกชื่อพระพิทักษ์โรคา ...หลวงพ่อมนัสท่านคงขอพรมาด้านรักษาโรคภัยไข้เจ็บ...ด้านหลังเหรียญอัญเชิญตรา ภปร. ประทับไว้


องค์ที่สอง..เหรียญกระทิงดำ..นี่คงเป็นสายคุ้มครองป้องกันภัย เพราะท่านทำแจกทหารกองพันกระทิงดำ ประสบการ์ณเยอะครับเหรียญรุ่นนี้


องค์ที่สาม...ชื่อรุ่นหมดหนี้ คงเด่นทางลาภผลการเงินคล่องตัวครับถึงได้ชื่อรุ่นหมดหนี้


องค์ที่สี่ พระกริ่งปะริต เนื้อสำริด พร้อมทั้ง พระยอดธงองค์เล็กอีกหนึ่งองคฺ์ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาลง


องค์ทีห้า...พระสมเด็จดวงดี


องค์พระไม่มีตัวหนังสือใดๆเป็น พระสมเด็จสามชั้นในซุ้ม.. เนื้อผงยาจินดามณี นานๆจะมีซักที่ พระเนื้อผงยาจินดามณี..เนื่องจากหาตัวยายากและมีราคาแพง


ที่ขาดไม่ได้คือ ตะกรุดโทน ดอกใหญ่ยาวประมาณห้านิ้ว

เรียกว่า..ตะกรุดพรานพิฆาติ..พร้อมผ้ายันต์..แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเนื่องจากผืนใหญ่


และไปเห็นลูกอมผงยาจินดามณีเข้าครับเปรียบเป็นยาวิเศษในตำราสมัยโบราณ ... เลยบูชามาสองลูก...เอาไว้ถึงคราวจำเป็นเจอโรครักษายากคงได้ใช้


 เรื่องของสรรพคุณ ... ยาจินดามณี...

ไม่ได้สอบถามจากหลวงพ่อมนัสมาเองเพราะไม่เจอท่าน แต่หลวงพ่อมนัสท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว


สรรพคุณยาจินดามณี ที่รับทราบมาจาก สายหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว

   มีมวลสารอีกชนิดหนึ่งที่ถือว่าเป็นสุดยอดของความหายากและ ผสมยาก คือ ผงยาจินดามณี หรืออาจจะเรียกผงยาวาสนาจินดามณี นอกจากมีพุทธคุณแล้วยังมีสรรพคุณรักษาโรคได้นานาชนิด
   ตำรับแห่งยา จินดามณี เป็นตำรับที่ตกทอดมาถึงพระพุทธวิถีนายกหรือหลวงปู่บุญ อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นตำรับคู่มากับวัดกลาง บางแก้ว นับเป็นตำรับเก่าแก่เล่ากันว่าเป็นตำรับของ สมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา ฉบับที่มาอยู่วัดกลางบางแก้วเป็นตำรับสมุดข่อย ลงทองล่องชาดกล่าวเอาไว้ถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดารและอานุภาพอัศจรรย์ อย่างยิ่ง

   ท่านมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วยไม่มีหมอรักษาเนื่องจากสมัยโบราณคนไทยยังต้องอาศัยหมอพื้นบ้านและยาพื้นบ้าน ท่านจึงคิดค้นยาโบราณที่อาจเรียกได้ว่าเป็น ยาขนานวิเศษ เป็นยาที่ทำด้วยสมุนไพรที่หายาก ตำรับยาส่วนผสมของ ยาจินดามณีได้พรรณนาเอาไว้อย่างกว้างๆในเบื้องต้นของตำราว่า
   จินดา มณีโอสถพิพาสประกอบดอกคราดดอกจันทน์เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมาทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือ ขื่อดั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป็นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชาอหิวาต์ก็วิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย

สรรพคุณ ยาจิดามณี...ถือว่ารักษาโรคได้ครอบจักรวาลเช่น แก้โรคจักษุ ๖ แก้ในจมูก ๓ ประการ ในลิ้น ๖ ประการ ในฟันในท้อง ๔ ประการ แก้ไข้บั้นปลายก็ได้ แก้ลมมหาสดมภ์ แก้ลมราชยักษ์ กุมภกัณฑ์ยักษ์ แก้อ่อนเปลี้ยเพลียใจ คลื่นไส้อาเจียน เป็นยาครรภ์รักษา แก้หัวพิษ หัวกาฬ ละลอกน้ำ ละลอกไฟ ผิวเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ตายไปทั้งตัวก็ดี ฝ่ายซ้ายขวาก็ดี ตีนมือ คางขากรรไกรก็ดี หาสมประดีไม่ได้ไซร้ให้เอา หญ้าฝรั่น พิมเสน ทองคำ บดด้วยยาละลายกรองลงไปได้สติลืมตา มีน้ำตาไหล น้ำลายยืด แล้วหายแล ถ้าคนไข้บีบมือเหมือนจะออกคำ แต่ออกมิได้ให้เอาดีหมีก็ได้ ถ้าไม่มีดีงูก็ได้ ต้มน้ำให้ละลายประมาณครึ่งถ้วยพริก ใส่เหล้าครึ่งหนึ่งให้กินเถิด ถึงเสลดหางวัวตีขึ้นก็จักกลับหาย หายมามากแล้ว เป็นต้น
    นอกจากนี้แล้วยีงมีคติความเชื่อและคำบอก เล่าต่อๆกันมาว่า หากแต่ถ้ายังไม่รับประทานก็นิยมพกพาติดตัวเพราะเชื่อว่ายาวาสนาจินดามณี ชื่อวาสนาเป็นชื่อที่มงคลแก่ตัวเองในปัจจุบันและได้บรรจุอาคมเข้าไปเพื่อ ช่วยรักษาโรคต่างๆ สารพัดโรค ตามแต่ผู้รับประทานจะอธิษฐานและช่วยในเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ
   แม้ผงยาจินดามณีจะขึ้นชื่อว่ามีทั้งพุทธคุณและสรรพคุณสูงแต่มักไม่มีนักสร้าง วัตถุมงคลกล้าลงทุนสร้าง เพราะมวลสารผสมยาจินดามณีส่วนใหญ่เป็นของหายากและมีราแพง เช่น งาช้างน้ำ งาช้างบก งากำจัด งากำจาย และเขากวางหลุด เป็นต้น

แต่ที่หายากแบบสุดๆ มี ๓ ชนิด คือ

๑.อำพัน ปลาวาฬซึ่งเป็นน้ำเชื้อของปลาวาฬที่ผ่านการผสมพันธุ์แล้วหลุดลอยขึ้นมาเหนือ ผิวน้ำระหว่างสัมผัสกับน้ำทะเลก็จะแข็งตัวคล้ายๆ กับพลอยสีเหลือง ทั้งนี้ชาวประมงที่พบเห็นจะเก็บและหวงแหนมากเพราะถือเป็นของหายาก และใช้เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง มีคุณทางเมตตาและแคล้วคลาด ราคาซื้อขายกันหลักแสนต่อเม็ด (ขนาดใหญ่กว่านิ้วแม่มือเล็กน้อย)

๒.น้ำ นมเสือหย่า (เสือคัด) ซึ่งเป็นน้ำนมของแม่เสือที่ไม่อยากให้ลูกกินนม เนื่องจากลูกฟันขึ้นแล้วเมื่อกินก็จะรู้สึกเจ็บ ดังนั้นแม่เสือจะเอาลำตัวไปนาบลงบนแผนหินเพื่อให้นมไหลออกมา ซึ่งพบในป่าลึกตามผนังถ้ำ หรือแผ่นหิน ราคาซื้อขายไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๒ แสนบาท และ

๓.นอแรด แม้จะหาไม่ยากแต่มีราคาแพงมากต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศเท่านั้น ราคา นอละไม่ต่ำกว่า ๑ ล้านบาท