สมเด็จองค์ปฐม

สมเด็จพระพุทธสิกขีที่๑
   
    กราบนมัสการองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมครู

-*- เขียนบันทึกเมื่อ วันที่ ๑๕ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔  -*-
--------------------------------------

ประวัติ สมเด็จองค์ปฐม บันทึตามที่รับทราบจากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา
หลวงพ่อได้บอกกล่าวไว้

   " ท่านสาธุชนทั้งหลาย ตอนนี้ก็มาพูดกันถึงเรื่อง สมเด็จองค์ปฐม สำหรับคำว่า “สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่ ๑ เรียกว่า “องค์ปฐม” ขอเล่าย้อนตอนหลังสักนิด คือเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๑ ตอนนั้นอาตมา..มาอยู่ที่วัดท่าซุงแล้วและ พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาต เวลานั้นเป็นนาวาอากาศเอก เป็นผู้บังคับกองฝึกโรงเรียนการบิน ที่นครราชสีมา ทราบว่าอาตมาป่วย จึงนิมนต์ไปพักที่นั้น ตอนกลางคืน สามีภรรยาก็นั่งเจริญพระกรรมฐาน อาตมาเป็นคนแนะนำ ขณะที่แนะนำเขาอยู่ เมื่อเสร็จแล้วก็ทำสมาธิ ขณะที่ทำสมาธิ บรรดาท่านพุทธบริษัท สิ่งที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น นั่นคือเห็นเป็นพระพุทธเจ้าในปางนิพพานยืนสองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้า แล้วก็พนมมือ จึงมีความรู้สึกในใจว่า บางที่อาจเป็นอุปทานของเรา เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่เคยก้มศีรษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือนเล็กๆที่หลังคาต่ำๆ ที่พระพุทธเจ้าเข้าไป หลังคา ก็สูงขึ้น แต่เวลานี้เราเห็นพระพุทธเจ้ายืนพนมมือ อุปาทานคือกิเลสคงกินใจมาก เมื่อนึกเพียงเท่านี้ ก็เห็นภาพ หลวงพ่อปาน ปรากฏขึ้นข้างๆ ท่านบอกว่า “คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา” อีกประมาณสัก ๕ นาที ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง รูปร่างใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูปของปางนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ก้มศรีษะแสดงความเคารพ เพราะพนมมืออยู่แล้ว พอท่านเดินมาถึงอาตมา ท่านก็พูดว่า “ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า...ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าเอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน” ก็เลยนั่งบนหัว แล้วก็บอกว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมะก็ดี จะเทศน์ก็ดี บอกฉันก่อน ฉันให้พูด ตอนไหนจะเทศน์ตอนไหน ให้ว่าตามนั้น” ก็เป็นความจริงบรรดาท่านพุทธบริษัท เวลาสอนกรรมฐานก็ดี เทศน์ก็ดี บางที่คิดว่าวันนี้ จะพูดเรื่องอย่างนี้ แต่พอพูดเข้าจริงๆ เรื่องนั้นไม่ได้พูด ไปพูดอีกจุดหนึ่ง อันนี้เป็นลีลาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ การเทศน์ของพระพุทธเจ้ามุ่งเฉพาะบุคคลสำคัญคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้หวังคนทั่วไป คนจะนั่งสักหนึ่งพัน สองพัน ห้าพันก็ตาม ท่านจะดูจิตใจว่า บุคคลใดจะรับคำเทศนาของท่านได้ จะสามารถบรรลุมรรคผลได้ ท่านจะจี้จุดเฉพาะคนนั้น เอาจุดเด่น แต่ว่าคนที่มีความดี ใกล้เคียงกัน ก็พลอยบรรลุมรรคผลไปตามๆกัน "



    หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า สมเด็จองค์ปฐมทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี” แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้ว อาจจะมีชื่อซ้ำกันก็ได้ โดยเฉพาะ ชื่อนี้มีด้วยกันถึง ๕ พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น “สมเด็จพระพุทธสิกขีที่ ๑” พระองค์จึงทรงเป็นต้นพระวงศ์ ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระองค์ว่าทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู" อย่างแท้จริง
    ครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์เสด็จมาเล่าให้หลวงพ่อฟังที่บ้านสายลมว่า สมัยที่พระองค์ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้นคนมีอายุขัย ประมาณ แปดหมื่นปี พระองค์เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เมื่อพระชนมายุได้ ๔ หมื่นปีหลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก ๒ หมื่นปี จึงได้ ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก พระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์อีกประมาณ ๒ หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน หลังจากทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง ๔๐ อสงไขยกัป ในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง
------------------------


รวบรวมภาพงานบุญที่ทำเนื่องในสมเด็จองค์ปฐม

งานบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมที่ วัดธรรมยาน


    ได้ร่วมทำบุญซื้อทองคำ หล่อพระสมเด็จองค์ปฐม "หลวงพ่อเหลือ" เป็นเงิน 2507 บาท ได้รับพระเครื่องหลวงพ่อยิ้ม มาสองคู่ (หลวงพี่วิรัช ท่านเป็นพระลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมยาน)


---------------------------------
งานบุุญหล่อองค์ปฐมที่โคราช วัดชัยมงคล


งานนี้ไปด้วยตัวเอง ได้ร่วมถวายทองคำกับหลวงพี่อนันต์ พฺทธญาโน ในวันงานหล่อพระด้วยตัวเอง ได้รับพระเครื่องสมเด็จองค์ปฐมเนื้อผงมาเป็นที่ระลึกมา ๕ องค์ ดังรูป







 อานิสงฆ์ร่วมหล่อสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อฤาษีฯท่านบอกไว้ว่า มีอานิสงค์พิเศษ ลงบัญชีทองคำ หมายถึงไปแล้วไม่กลับ เพราะพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทรงโมทนาด้วยทั้งหมด

---------------------------------------------

รูปหล่อลอยองค์ สมเด็จองปฐม
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นที่ ๓ วัดท่าซุง เป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อท่านสั่งสร้างก่อนที่ท่านจะละขันธ์ จำนวน ๓ หมื่นองค์

พุทธาภิเษกคืน วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๕ เวลา ๒๓.๐๐ น. 

*** บันทึกในหนังสือประวัติมโนมยิทธิและประวัติของฉัน ที่จำหน่ายอยู่ที่ซอยสายลมและวัดท่าซุง ทางหลวงพี่วิรัชก็บันทึกไว้ชัดเจน ว่าหลวงพ่อปลุกเสกสมเด็จองค์ปฐมรุ่นสามตอนห้าทุ่ม  ***

   และรับทราบมาว่า...จากคำบอกเล่าของหลวงพี่วิรัช (ท่านเป็นพระที่ดูแลวัตถุมงคลของหลวงพ่อ)...หลวงพ่อบอก... วัน ที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๕ เป็นพิธีสุดท้ายที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านพุทธาภิเษกอธิฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล ท่านเล่าให้ฟังว่า "เมื่อคืนปลุกเสกพระแอบไม่ให้หมาเห็น เพราะ ๒ งวดก่อนให้หมาเห็นเห่ากันให้เจี๊ยวจ๊าว เมื่อคืนแอบไม่ให้หมาเห็นเมื่อคืนเป็นพิธียันกลับ ใครทำไม่ดียันกลับหมด"

   รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่พิเศษสุดที่หลวงพ่อสร้างไว้ให้


สมเด็จองค์ปฐม รุ่นที่๓


รูปหล่อลอยองค์


ขนาดความสูงองค์พระ


ขนาดความกว้างองค์พระ 


ฝากริ่งตัว นะ มีทั้งแบบชุบทอง และไม่ชุบทอง

----------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นที่๓






องค์นี้ฝากริ่งไม่ชุบทอง


องค์ปฐมที่นำไปปิดทองทั้งองค์
การปิดทองคำเป็นการบูชาพระและเป็นการเร่งลาภ